การเทรดคริปโตแบบ Short และ Long คืออะไร

2025

การเทรดคริปโตแบบ Long และ Short เป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่นักเทรดจะใช้เพื่อหวังทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดคริปโต โดย Long position หมายถึงการเปิดสถานะ “ซื้อ” เพราะเชื่อว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ขณะที่ Short Position คือการ “ขายก่อน แล้วซื้อคืนทีหลัง” เพราะคาดว่าราคาจะลดลง

การเทรดคริปโตแตกต่างจากตลาดหุ้นทั่วไปตรงที่เปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทำให้โอกาสและความเสี่ยงอยู่ใกล้กันตลอดเวลา ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาด เช่น การประกาศจาก Fed เหตุการณ์ระดับโลก กฎระเบียบจากหน่วยงานรัฐ เทคโนโลยี และจิตวิทยาของนักลงทุน ล้วนมีผลต่อทิศทางราคา ดังนั้น ผู้ที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนเพื่อใช้วางกลยุทธ์ Long หรือ Short จึงควรติดตามข่าวสารเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานก็มีบทบาทสำคัญ ในบางครั้งความหายากของเหรียญบางตัวอาจทำให้ราคาพุ่ง แต่อีกด้าน หากมีการผลิตหรือปล่อยเหรียญออกมามากเกินไป อุปทานล้นอาจกดดันราคาตกได้

วิธีและกลยุทธ์ในการเปิด Long และ Short Positions

ต่อไปนี้คือการอธิบายวิธีและกลยุทธ์การเทรดแบบ Long และ Short

Long Position

หากคุณเป็นนักลงทุนที่เชื่อมั่นว่าราคาคริปโตมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น การเปิดสถานะ Long ถือเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่เหมาะสม ขั้นตอนในการเปิด Long นั้นไม่ซับซ้อน โดยมีลำดับดังนี้

  1. เลือกตลาดซื้อขายคริปโตที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบว่ามีเหรียญที่เราต้องการ เช่น Bitcoin
  2. สมัครบัญชีพร้อมดำเนินการยืนยันตัวตนและตั้งระบบรักษาความปลอดภัย เช่น 2FA
  3. ฝากเงิน (Fiat หรือคริปโตอื่น) เข้าบัญชี
  4. ส่งคำสั่งซื้อที่ราคาตลาด (Market) หรือราคาที่กำหนด
  5. ถือเหรียญไว้อย่างระมัดระวังและตัดสินใจขายเมื่อถึงเป้าหมาย

ตัวอย่าง สมมุติว่าซื้อ Bitcoin ที่ราคา 60,000 ดอลลาร์แล้วคาดว่าราคาจะขึ้นไปถึง 65,000 ดอลลาร์ — หากราคาพุ่งขึ้นจริง คุณขายออกที่ 65,000 ดอลลาร์ก็ได้กำไรจากส่วนต่าง

Short Position

สำหรับนักเทรดที่มองว่าราคาคริปโตมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง การเปิดสถานะ Short ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างโอกาสทำกำไรจากการร่วงของราคา โดยมีลำดับดังนี้

  1. เลือกแพลตฟอร์มที่รองรับการ Short หรือ Margin Trading
  2. ตรวจสอบว่าเป็นบัญชีที่อนุญาต Trading แบบยืมเหรียญ
  3. ยืม Bitcoin จากโบรกเกอร์
  4. ขายเหรียญที่ยืมมาก่อน ณ ราคาปัจจุบัน
  5. เมื่อราคา Bitcoin ลดลง คุณซื้อคืนในราคาต่ำกว่า
  6. คืนเหรียญให้โบรกเกอร์และกวาดกำไรจากส่วนต่าง

ตัวอย่าง หากคุณ Short Bitcoin ที่ 60,000 ดอลลาร์แล้วราคาตกมา 55,000 ดอลลาร์ – คุณซื้อคืนที่ราคาต่ำกว่าคืนให้โบรกเกอร์แล้วเก็บกำไรที่เหลือ

การเลือกกลยุทธ์ การบริหารความเสี่ยง และสิ่งที่ควรระวัง

แม้ว่าการเทรดคริปโตด้วยกลยุทธ์ Long และ Short จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการวางแผนอย่างรอบคอบ เพราะทุกการตัดสินใจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโดยตรง 

ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตนเอง ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยง และตระหนักถึงปัจจัยที่ควรระวังก่อนเข้าตลาดจริง

กลยุทธ์ที่นิยมใช้

  • ติดตามแนวโน้มตลาด: ถ้าแนวโน้มราคาขึ้น → เปิด Long; ถ้าแนวโน้มลง → เปิด Short
  • ปิดหรือปรับตำแหน่ง: เมื่อราคาเคลื่อนตัวไกลเกินไป อาจเปิดเดิมพันว่าราคาจะกลับมาสู่ค่าเฉลี่ย
  • ใช้สัญญา Futures: ใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) เพื่อเข้าออกตลาดในราคาที่ตกลงไว้ล่วงหน้า 
  • เทรดแบบ Leverage: ยืมเงินมากกว่าเงินทุนจริงเพื่อเพิ่มขนาด Position
  • Hedging: เปิดตำแหน่ง Short เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถือเหรียญในระยะยาว

การบริหารความเสี่ยง

  • สำรองเงินบางส่วนไว้เพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
  • ใช้ Stop-Loss เพื่อลดการขาดทุนเมื่อราคาวิ่งสวน
  • กำหนดจุด Take-Profit เพื่อเอากำไรเมื่อราคาครบเป้า
  • จำกัดสัดส่วนเงินที่ใช้เปิดสถานะ (ไม่ใช้เงินทั้งหมดใน Position เดียว)
  • หลีกเลี่ยงการเทรดด้วยอารมณ์และควรมีแผนล่วงหน้าหากเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด

สิ่งที่ควรระวัง

  • ความผันผวนสูง: ราคาคริปโตขึ้นลงเร็วมาก — อาจถูกตลาด “ล้างพอร์ต (Liquidation)” ได้
  • ข้อกำหนดทางกฎหมาย: หลายประเทศอาจจำกัดการเทรดคริปโตหรือเก็บภาษี
  • ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย: การยืมเหรียญหรือใช้ Leverage มักมีค่าใช้จ่ายแฝง
  • ข่าวสารที่ไม่คาดคิด: ข่าวดีหรือข่าวร้ายเฉียบพลันสามารถพลิกตลาดได้ทันที
  • การวิเคราะห์ผิดจังหวะ: วิเคราะห์ผิดทางหรือเข้าออกไม่ถูกจังหวะอาจพลาดโอกาสหรือขาดทุน
タイトルとURLをコピーしました