หนทางการสร้างกำไรจากทองคำไม่ได้มีเพียงแค่การคาดเดาราคา, หรือการเก็งกำไรแบบปกติ แต่ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบ นั่นคือการสังเกตราคาที่แตกต่างกันใน แต่ละตลาด ที่จะกลายเป็นอีกช่องทางในสร้างผลกำไรให้กับคุณ
กลยุทธ์ที่เราพูดถึงนั้นเรียกว่า Arbitrage โดยกลยุทธ์นี้ไม่จำกัดแค่เพียงการเทรดทองคำเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการนำไปใช้กับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น คริปโทเคอร์เรนซี, การเทรดสกุลเงินตราต่าง ๆ เพื่อเพิ่มผลกำไรให้กับการเทรดในแต่ละครั้ง
ภายในบทความนี้ SBK Gold จะมาอธิบายกลยุทธ์ Arbitrage ให้เข้าใจกันมากขึ้น โดยจะมีการยกตัวอย่างการใช้กลยุทธ์เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน รวมถึงบอกวิธีการเริ่มต้น เพื่อให้คุณสามารถนำไปใช้ร่วมกับการเทรดทองคำของคุณ มาติดตามกันได้เลย
Arbitrage คือการทำกำไรด้วย ส่วนต่าง ของราคาสินทรัพย์ชนิดเดียวกันใน 2 ตลาด ด้วยการซื้อสินทรัพย์จากตลาดหนึ่งไปขายอีกตลาดหนึ่ง ซึ่งสินทรัพย์ในแต่ละตลาดจะต้องมีราคาที่แตกต่างกันจนสามารถทำการเทรดเพื่อทำกำไรได้ รวมถึงสินทรัพย์นั้นจะต้องเหมือนกันทุกประการ กลยุทธ์ Arbitrage ถึงจะประสบความสำเร็จ
หลักการ Arbitrage มาจากการที่ยุคนี้เกิดตลาดเทรดใหม่ ๆ ขึ้นมามากมาย ทำให้ผู้ลงทุนสามารถที่จะเลือกเทรดสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ และสินทรัพย์ออนไลน์แบบอื่น ๆ ในตลาดใดก็ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งแต่ละตลาดก็จะมีราคาสินทรัพย์ที่แตกต่างกันออกไปซึ่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณการเทรดภายในตลาดนั้น ๆ (Demand & Supply) จึงทำให้เกิดช่องทางการแสวงหากำไรใหม่จากส่วนต่างของแต่ละตลาด นั่นก็คือ Arbitrage นั่นเอง
Arbitrage เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ซับซ้อน สามารถทำได้โดยการซื้อสินทรัพย์ในตลาดที่ราคาต่ำ แล้วนำไปขายในตลาดที่มีราคาสูงกว่า ซึ่งสิ่งที่ต้องนำมาคิดคำนวณคือต้นทุนการซื้อ และค่าใช้จ่ายการทำธุรกรรม โดยตัวอย่างของ Arbitrage สามารถอธิบายได้ดังนี้
ตัวอย่างแรก การเทรดสินทรัพย์ ทองคำ สมมุติว่าแพลตฟอร์ม A มีราคาขายทองคำอยู่ที่บาทละ 30,000 บาท ส่วนแพลตฟอร์ม B รับซื้อทองคำอยู่ที่ 30,800 ทำให้เกิดผลต่างของราคาอยู่ที่ 800 บาท นักเทรดสามารถที่จะซื้อทองจากแพลตฟอร์มทอง A และนำไปขายให้กับแพลตฟอร์ม B เพื่อได้ให้กำไรจากผลต่าง 800 บาท
และอีกหนึ่งตัวอย่างในการเทรดคริปโทเคอร์เรนซี สมมุติราคา Bitcoin ของ Coinmarketcap อยู่ที่ 787,000 บาทต่อเหรียญ และบน Coinbase อยู่ที่ 788,000 บาท ในสถานการณ์นี้นักเทรดสามารถที่จะ Arbitrage ได้โดยการซื้อ Bitcoin จาก Coinmarketcap แล้วนำไปขายต่อบน Coinbase เพื่อได้กำไรจากผลต่าง 1,000 บาทต่อเหรียญ ซึ่งการ Arbitrage ในสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีสามารถทำได้กับเหรียญทุกสกุล ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, BNB, Solana ฯลฯ ดังนั้นเราจะพบได้ว่า Arbitrage เป็นกลยุทธ์ที่สร้างผลกำไรให้นักเทรดได้แบบไร้ความเสี่ยงจริง ๆ
สิ่งแรกที่นักเทรดจำเป็นจะต้องรู้ นั่นคือการ หาแพลตฟอร์ม เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการสังเกตความแตกต่างของราคาสินทรัพย์ และเมื่อคุณพบตลาดและความแตกต่างของราคาแล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อไปนั่นก็คือการหักลบกำไรกับค่าบริการที่จะเกิดขึ้น เช่น ค่าธรรมเนียมจากการซื้อสินทรัพย์ และค่าคอมมิชชันถ้าเทรดผ่าน Broker เพื่อให้สุดท้ายแล้วคุณยังมีผลกำไรจากการ Arbitrage อยู่
กลยุทธ์ Arbitrage มีสิ่งที่คุณจำเป็นต้องพิจารณาก่อนลงมือไม่แตกต่างกับการใช้กลยุทธ์เทรดรูปแบบอื่น ๆ โดยสามารถอธิบายแยกได้ทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้
กลยุทธ์ Arbitrage ตั้งอยู่บนพื้นฐานของปริมาณการเทรดที่ควรจะอยู่ในระดับที่สูง-สูงมากเพื่อให้การ Arbitrage แต่ละครั้งสามารถมอบผลกำไรให้คุณได้มากที่สุด เพราะการเทรดแต่ละครั้งคุณจะต้องนำกำไรที่จะได้มาหักลบกับค่าบริการอีก ทำให้คุณอาจได้ไม่คุ้มเสียถ้าเทรดไม่เยอะ
การเกิดช่องว่างในตลาดอาจไม่ได้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อเกิดช่องว่างในแต่ละครั้งนักเทรดรายใหญ่ที่มีการสังเกตตลาดอยู่เกือบตลอดเวลาก็พร้อมที่จะ Take Action แย่งโอกาสนี้ไปได้เสมอ จนทำให้ Demand & Supply กลับมาสู่ปกติจนทำให้ Arbitrage ไม่ได้ ซึ่งถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือคุณจะต้องเป็นคนที่สังเกตราคาส่วนต่างอย่างรอบคอบ และตัดสินใจได้เด็ดขาดไม่มีความลังเล
นักเทรดทองคำที่ต้องการใช้กลยุทธ์ Arbitrage จำเป็นจะต้องคำนวณต้นทุนผลกำไรอย่างรวดเร็วเพื่อให้รู้ว่าการ Arbitrage นั้นจะมอบผลกำไรให้คุณได้คุ้มค่าหรือไม่ ถ้าคุณคำนวณช้า ตลาดก็อาจจะกลับมาสู่สภาวะสมดุลจนไม่มีช่องทางให้คุณได้เทรดนั่นเอง
อย่างที่เราได้ยกตัวอย่างไปในต้นบทความ สินทรัพย์อย่าง ทองคำ สามารถใช้กับกลยุทธ์ Arbitrage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหลักการเทรดง่าย ๆ เพียงสังเกตราคาทองตลาดหนึ่งเทียบกับอีกตลาดและถ้าพบว่าราคาต่างกันคุณก็ทำการซื้อและนำไปขายอีกที่เพื่อรับส่วนต่างได้ทันที
โดยเหตุผลที่ทองคำสามารถใช้กลยุทธ์ Arbitrage ได้นั่นเป็นเพราะว่าทองคำเป็นโลหะที่นิยมใช้ในการแลกเปลี่ยน-ซื้อขายในอุตสาหกรรมระดับประเทศ-โลก เช่น บริษัทเหมืองแร่, บริษัททองแท่ง, ธนาคารชาติ, กองทุนต่าง ๆ ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่แต่ละประเทศมีการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว
และด้วยปัจจัยการนำทองคำมาใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทำให้ทองคำกลายเป็นโลหะที่มีคุณค่า ผู้คนต่างต้องการจับจองเป็นเจ้าของ ทำให้เกิดแพลตฟอร์มเทรดทองคำรายย่อยเกิดขึ้นมามากมายที่คนทั่วไปก็สามารถเข้ามาเทรดทองคำได้
ด้วยเหตุผลดังนี้ ทำให้แต่ละแพลตฟอร์มมีราคาทองคำไม่เท่ากันเนื่องด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น การปรับเปลี่ยนของราคา Gold Spot, ปริมาณ Demand & Supply, ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ (ถ้าคุณเทรดทองคำในแพลตฟอร์มต่างประเทศ) และเวลาประมวลผลการเทรด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เกิด ช่องว่าง ที่เป็นโอกาสให้คุณสามารถ Arbitrage เพื่อสร้างผลกำไรได้นั่นเอง
Arbitrage เป็นกลยุทธ์สร้างกำไรที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจได้ง่าย แต่สิ่งที่คุณจะต้องแสวงหานั่นคือแหล่งเทรดที่มากเพียงพอให้คุณเห็นช่องทางในการ Arbitrage รวมถึงการคิดคำนวณหาตัวเลขผลกำไรที่จะต้องมีความรวดเร็วแม่นยำเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการสร้างผลกำไรของคุณ
หนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้คุณ Arbitrage ได้ดีขึ้นก็คือแอปพลิเคชัน SBK Gold ที่จะทำให้คุณไม่พลาดราคาทองคำทุกขณะ และแนวโน้มราคาแบบ Real Time เพื่อให้คุณเทรดทองคำได้ทุกที่ ทุกเวลาตามที่คุณต้องการ
และ SBK Gold ตอกย้ำความปลอดภัยด้วยหน้าร้านจริง (ถนนประชาอุทิศ) และมอบเครดิต T+3 ที่จะทำให้คุณเทรดทองคำได้ก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลัง รับรองได้เลยว่าการเทรดทองคำของคุณจะมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม ถ้าคุณยังไม่ได้เป็นสมาชิก สามารถคลิก ที่นี่ และกรอกข้อมูลเพียง 4 ช่องเท่านี้ก็สามารถใช้บริการได้ทันที
เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ คุณก็ได้เป็นเจ้าของทองคำและแอปที่ใช้งานง่ายสุดๆ